“น้ำ” คือชีวิต เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับชีวิตทุกชีวิต ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ ตลอดจนถึงต้นไม้ ถ้าขาดน้ำทุกอย่างก็คงแย่ และในการดื่มน้ำในสมัยปัจจุบันนั้น ยังมีคนส่วนน้อยที่ยังมีการดื่มน้ำประปาทั่วไป เนื่องด้วยสภาพน้ำประปาที่มาดื่มนั้นมีความสะอาดไม่เพียงพอ อาจมีสิ่งสกปรก และสารปนเปื้อนที่มากับน้ำ ทำให้ทุกคนกลับมาเลือก ซื้อน้ำดื่มที่เป็นขวด หรือไม่ ก็ซื้อเครื่องกรองน้ำมาติดตั้ง เพื่อที่จะได้ดื่มน้ำที่สะอาดและปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็มีหลากหลายคนสงสัย ระหว่างการที่จะซื้อน้ำดื่มที่เป็นขวด กับ การเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำมาติดตั้ง อันไหนจะประหยัดกว่ากัน
ถ้าเราเลือกที่จะซื้อน้ำดื่มทุกวัน ในเวลา 1 เดือน และ 1 ปี เราจะเสียค่าน้ำดื่มไปเท่าไหร่ และถ้าเราเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำมาติดตั้ง เราจะเสียค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่ ซึ่งต่อไปนี้คือการคำนวณแบบคราวๆ
1.คิดที่คนเราดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ถ้าซื้อน้ำขวดก็ต้องดื่มวันละ 4 ขวด ราคาน้ำขวดละ 7 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 28 บาท ที่จะต้องเสียเงินไปในแต่ละวัน ถ้า 1 เดือน 28*30 เราจะเสียเงินค่าน้ำดื่มต่อเดือน เดือนละ 830 บาท ถ้าเป็น 1 ปีเราล่ะ เราต้องเสียเงิน 28*365 เราต้องเสียเงินต่อปี ในปีละ 10,220 บาทเลยทีเดียว แล้วยังไม่รวมค่าเสียเวลา ค่าน้ำมัน และค่าแรงที่ออกไปซื้ออีก
2.การซื้อเครื่องกรองน้ำ สำหรับเครื่องกรองน้ำระบบ RO ที่มีประสิทธิภาพสูงมากในการกรองน้ำและทำให้น้ำสะอาดมากขึ้น เมื่อคิดรวมค่าน้ำทั้งหมด รวมทั้งน้ำทิ้งแล้วเราจะใช้น้ำรวมทั้งหมด 200 ลิตร/เดือน หรือ 2,400 ลิตร/ปี อยู่ที่ 30 บาทเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่าเช่นค่าไฟอยู่ปีละไม่เกิน 240 บาท ค่าให้เมมเบรน 2 ปีครั้ง ราคา 480 บาท
ดั้งนั้นโดยเฉลี่ยจากการดูคราวๆแล้ว ต้องถือว่าการซื้อเครื่องกรองน้ำถูกกว่าการซื้อน้ำดื่มอย่างแน่นอน แถมประหยัดเวลา ประหยัดแรง ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บอีกด้วย...
หน้าที่เข้าชม | 2,040,605 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,092,744 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |